
ป้ายกำกับ
Drugstores – 12 tinted items for this summer
เข้าสู่ฤดูร้อนกันอย่างเต็มตัวแล้วนะคะสำหรับปี 2016
หลายสำนักทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าปีนี้ร้อนสุดๆและแล้งสุดๆแน่นอน
เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมาเตรียมผิวให้พร้อมรับมือกับฤดูร้อนนี้สักหน่อย
–
ในบล็อกนี้เก๋หยิบเอาครีมกันแดดแบบมีสีทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น tinted sunscreen/ moisturizer ก็ดี
รวมไปถึงบรรดา bb และ cc cream ที่หาซื้อได้ทั่วไปตามซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านขายยาสะดวกซื้อต่างๆ
มาลองและเขียนเล่าให้เพื่อนๆได้ดูเผื่อเป็นข้อมูลในการเลือกซื้อกันค่ะ
–
ส่วนตัวแล้วพอเข้าหน้าร้อนทีไรจะยิ่งรู้สึกอยากลดขั้นตอนและสารพัดเครื่องสำอางที่โบกผิว
เพราะสภาพอากาศบ้านเรามันช่างร้อนระอุเพิ่มขึ้นๆไปทุกที
สเต็ปการลงเครื่องประทินผิวในช่วงหน้าร้อนของเก๋ โดยเฉพาะวันที่ไม่ต้องออกงาน
หรือไม่ต้องการความกริ๊บของเมคอัพมากนักก็จะเหลือแค่
1.toner หรือ essence lotion > 2. pre-serum > 3. light texture serum
> 4. tinted sunscreen หรือ bb cream หรือ cc cream > 5. แป้งฝุ่น หรือ แป้งอัดแข็ง
–
คือบางทีก็ตัดพวกขั้นตอนของ emulsion กับ moisturizer ออกไป
ยกเว้นวันไหนที่ผิวดูขาดความชุ่มชื่นก็จะทา moisturizer บางๆเฉพาะจุด เพื่อไม่ให้ผิวเหนียวเหนอะจนเกินไป
ส่วนขั้นตอนของกันแดดกับรองพื้นก็พยายามหากันแดดแบบที่ผสมสีมาใช้
หรือบางทีก็เป็นพวก BB หรือ CC หรือ รองพื้นที่มีค่ากันแดดมาใช้ก็มี
–
ไอเท่มที่จะหยิบมาพูดถึงทั้งหมดมี 12 ชิ้น
เก๋จะแบ่งออกเป็น 2 หลัก คือ
1. กันแดดแบบมีสี – เน้นคุณสมบัติในการกันแดดมากกว่าการปรับสีผิวเพื่อแต่งหน้า
2. บีบีครีม ซีซีครีม และรองพื้นที่ผสมสารกันแดด – เน้นผลลัพธ์ให้ผิวดูเนียน สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น และมีสารกันแดดเพิ่มเติมเข้ามาด้วย
–
กันแดดแบบมีสี
ในกลุ่มของกันแดดมีสีจะมีด้วยกัน 3 ชิ้น ก็คือ
Garnier UV Complete Whiten & Protect Daily Sunscreen SPF50+ PA++++
Mamonde Sun Cream SPF36 PA++
และ La Roche-Posay Uvidea XL Melt-in Tinted Cream SPF50 PA++++
–
–
ชิ้นแรกที่ขอหยิบมาพูดถึงก่อนใครเพื่อนก็คือ Garnier UV Complete Whiten & Protect Daily Sunscreen SPF50+ PA++++ ชิ้นนี้เริ่มวางขายเมื่อช่วงปี 2014 สนนราคาที่หลอดละ 249 บาท ในปริมาตร 30ml. อันนี้ปกติเก๋จะใช้สูตรที่เป็นสีขาวอยู่แล้ว ในแง่ของการกันแดดถือว่าโอเคเลยนะ สีที่ได้จะออกโทนเหลือง คนไทยใช้ง่ายเลยล่ะ แต่จะมีข้อจำกัดเรื่องไม่ควบคุมมันของผิว ต้องคอยซับผิวระหว่างวัน และไม่ช่วยเรื่องการปกปิดเท่าไหร่
Mamonde Sun Cream SPF36 PA++ ขนาด 40ml. ชิ้นนี้ไม่ค่อยเห็นใครหยิบมาพูดถึง อาจจะเพราะทางแบรนด์เองก็ยังไม่เคยโปรโมทผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้สักเท่าไหร่ ชิ้นนี้เหมาะกับคนที่เจอแดดไม่มากในแต่ละวัน สามารถใช้แทนเมคอัพเบสสีชมพูเพื่อปรับผิวให้สว่างขึ้นได้เลย
La Roche-Posay Uvidea XL Melt-in Tinted Cream SPF50 PA++++ แบรนด์นี้ขึ้นชื่อและโดดเด่นเรื่องครีมบำรุงผิวสำหรับคนที่มีผิวระคายเคืองง่ายมานานแล้ว เจ้าตัวนี้เป็นครีมกันแดดสีเนื้ออ่อนๆ เน้นที่คุณสมบัติการกันแดดเป็นหลัก เนื้อครีมเกลี่ยง่ายสุดๆ ทาแล้วลื่นปรื้ดๆไปกับผิว ที่สำคัญแห้งไวมาก ไม่เหนอะผิวเลย ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะช่วยให้ผิวดูสว่างขึ้นนิดๆหน่อยๆเท่านั้น ไม่ช่วยเรื่องการปกปิดข้อบกพร่องของผิว ราคา 997.50 บาท ขนาด 30ml.
–
บีบีครีม ซีซีครีม และรองพื้นที่ผสมสารกันแดด
ในกลุ่มนี้เน้นคุณสมบัติของ base makeup คือ ช่วยเรื่องการปกปิดผิว หรืออาจจะช่วยเพิ่มความสว่างให้กับผิว
ซึ่งเก๋จะแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยอีก 2 กลุ่ม โดยใช้ค่า SPF เป็นเกณฑ์
กลุ่มนึงจะมีค่า SPF ที่สูงกว่า ส่วนอีกกลุ่มจะมีค่า SPF ที่น้อยกว่า
–
กลุ่มที่มีค่า SPF สูงจะมีทั้งหมด 6 ชิ้นด้วยกัน คือ
ZA Total Hydration BB Cream UV White SPF50 PA+++
Biore UV Color Control CC Milk SPF50 PA++++
Biore UV Aqua Rich Watery BB Waterbase SPF50 PA++++
Biore UV Aqua Rich Watery BB 3D Effect SPF50 PA+++
Fasio BB Cream SPF50+/ PA++++
ALLIE Mineral BB Liquid SPF50+ PA+++
–
ZA Total Hydration BB Cream UV White SPF50 PA+++ ราคา 275 บาท ขนาด 20g. เน้นคุณสมบัติการปรับสีผิวให้ดูสว่างและเนียนขึ้น ปกปิดได้ดีพอสมควร ส่วนค่ากันแดดที่ได้มาก็ถือว่าค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ เพราะมี SPF 50 ส่วนค่า PA นั้นอาจจะน้อยกว่า Garnier นิดหน่อยเท่านั้น2
ต่อมาขอยกเอากันแดดจากค่ายญี่ปุ่นอย่าง Biore มาพูดถึงแล้วกัน เท่าที่เก๋ลองเดินสำรวจตลาดมาแบรนด์ Biore น่าจะเป็นแบรนด์ที่มีกันแดดให้เลือกหลากหลายมากที่สุดก็ว่าได้ จากทั้งหมดที่เคยเห็นคือเค้ามีกันแดดสิบกว่าสูตรให้เลือก เฉพาะรุ่นที่มีสีก็มี 3 สูตรด้วยกัน คือ
- Biore UV Color Control CC Milk SPF50 PA++++
- Biore UV Aqua Rich Watery BB Waterbase SPF50 PA++++
- Biore UV Aqua Rich Watery BB 3D Effect SPF50 PA+++
Biore UV Color Control CC Milk SPF50 PA++++ ตัวนี้เป็นแบบ shaka คือต้องเขย่าขวดก่อนใช้ ลักษณะของ texture เป็นน้ำนม เนื้อเบา เกลี่ยง่าย สำหรับสูตรนี้สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว แต่ค่อนข้างเหมาะกับคนผิวธรรมดา-ผิวมัน ส่วนใครที่ผิวขาดน้ำ หรือมีผิวค่อนข้างแห้งแนะนำว่าควรลง moisturizer เพื่อให้ผิวชุ่มชื่นก่อนใช้กันแดดรุ่นนี้
Biore UV Aqua Rich Watery BB Waterbase SPF50 PA++++ รุ่นนี้ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องของเนื้อสัมผัส เพราะเป็นสูตร water base ซึ่งข้อดีของกันแดดที่เป็น water base นั้นนอกจากจะไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะระหว่างวันแล้ว ยังเหมาะมากกับคนที่มีผิวธรรมดาถึงผิวค่อนข้างแห้ง เพราะทำให้ผิวดูชุ่มชื่นได้เป็นอย่างดี
Biore UV Aqua Rich Watery BB 3D Effect SPF50 PA+++ รุ่นนี้อาจจะด้อยกว่าอีก 2 สูตรของเค้าสักหน่อยเพราะมีค่า PA เพียง +++ เท่านั้น แต่ในแง่ของระดับการปกปิดนั้นมากกว่าอีก 2 สูตรที่ยกมาแน่นอน เพราะ texture ค่อนข้างใกล้เคียงเนื้อครีม/มูส
มาที่แบรนด์ญี่ปุ่นอีกแบรนด์นึงบ้าง นั่นก็คือ Fasio แบรนด์นี้เมื่อก่อนมาสคาร่านี่ฮิตมาก แต่เดี๋ยวนี้อาจจะไม่ค่อยมีใครพูดถึงกันสักเท่าไหร่ Fasio BB Cream SPF50+/ PA++++ เบอร์ 02 ตัวนี้ต้องเรียกว่าเป็น BB Cream ที่มีค่ากันแดด เพราะว่าเค้าเน้นไปที่การปรับสีผิวและการปกปิดจุดบกพร่องของผิวมากกว่า แต่ในค่ากันแดดที่ให้มาก็ถือว่าใช้ได้ดีทีเดียว อาจจะติดนิดหน่อยตรงที่ว่าเวลาเราทาลงผิวอาจจะไม่ได้ทาในปริมาณที่มากเพียงพอที่จะยึดค่ากันแดดได้ 100%
ALLIE Mineral BB Liquid SPF50+ PA+++ ตัวนี้เน้นคุณสมบัติไปที่ BB เป็นการปรับและปกปิดให้ผิวดูสม่ำเสมอ สนนราคา 650 บาท ปริมาณ 25ml. เป็นกันแดดสูตร waterproof แบบ shaka ขวดสีชมพูสดใสจากแบรนด์น้องของ Kanebo ที่หน้าขวดบอกไว้ว่า ใช้แทนกันแดดและเบสเมคอัพได้เลยในขั้นตอนเดียว
–
ในกลุ่มสุดท้ายนี้เน้นคุณสมบัติในการปรับสีผิวและปกปิด
ส่วนสารกันแดดที่ให้มานั้นค่อนข้างน้อย
–
มีด้วยกัน 3 ชิ้น คือ L’Oréal Lucent Magique BB SPF 21 PA+++
Olay White Radiance CC Cover & Correct Cream SPF15 UVA/UVB
Eucerin Hyaluron-Filler CC Cream SPF15 + UVA Protection
L’Oréal Lucent Magique BB SPF 21 PA+++ ขนาด 30ml. ราคา 399 บาท เจ้าบีบีครีมตัวนี้ของลอรีอัลเน้นคุณสมบัติในเชิง makeup ให้ effect ผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ถ้าจะใช้แทนกันแดดก็คงต้องเป็นวันที่อยู่แต่ในที่ร่ม ไม่เจอแดดจัดๆ และไม่มีแดดส่องเข้ามาแรงๆ ไม่งั้นคงกันแดดไม่พอแน่ๆ
Olay White Radiance CC Cover & Correct Cream SPF15 UVA/UVB ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือมีส่วนผสมบำรุงผิวช่วยให้ผิวดูชุ่มชื่นขึ้น เหมาะกับคนที่ผิวธรรมดา-ผิวค่อนข้างแห้ง ส่วนผิวมันมากๆอาจจะไม่เวิร์ค มีขาย 2 เฉดสี คือ light กับ medium สีที่เก๋มีอยู่คือ light ค่ะ ถึง SPF จะมาแค่ 15 แต่ก็มีสารป้องกัน UVA กับ UVB มาด้วยก็ถือว่าโอเคอยู่นะถ้าใช้ชีวิตอยู่แต่ในอาคารที่ไม่ค่อยโดนแสงแดดก็น่าจะพอไหว
Eucerin Hyaluron-Filler CC Cream SPF15 + UVA Protection ชิ้นนี้ราคาโหดทีเดียวสำหรับ drugstore และ supermarket ขนาด 50ml. ขายที่ 2,200 บาท ตัวนี้เค้าเคลมว่าไม่ตกร่อง ช่วยปกปิดและเติมริ้วรอยให้ดูเรียบเนียน และเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ซึ่งหลักๆตรงนี้เก๋มองว่าเค้าพยายามใส่ประโยชน์ของการบำรุงผิวและเมคอัพ รวมถึงกันแดดนิดๆหน่อยๆเข้าไปด้วยกันให้เป็น 3-in-1 และก็อาจจะด้วยสาเหตุนี้ล่ะมั้ง เลยทำให้เจ้าตัวนี้มี texture ที่ค่อนข้างหนืด และหนึบกว่าตัวอื่นๆ จากที่ลองใช้มาเก๋ว่าตัวนี้ต้องใช้วิธีการเกลี่ยที่ยากกว่าตัวอื่นๆสักหน่อย คือต้องนวดวนบนผิวสักพักถึงจะเซตตัว เรื่องของการเติมริ้วรอยอาจจะช่วยได้เฉพาะรอยบางๆนิดหน่อยแบบ fine lines แต่ถ้าเป็นรอยแบบร่องลึกก็ปิดไม่ไหว เหมาะกับผิวธรรมดา-ผิวแห้ง ใครที่ผิวค่อนข้างมันหรือมันมากก็ต้องซับระหว่างวันหลายรอบหน่อย ใครจะใช้เจ้าตัวนี้อย่าลืมทากันแดดเสริมเข้าไปด้วยนะคะ เพราะลำพังสารกันแดดที่ให้มายังไม่ครอบคลุมมากพอสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง และสภาพอากาศของไทย
–
ทั้ง 12 ชิ้นนี้สามารถใช้ในชีวิตประจำวันทั่วๆไป สามารถเลือกระดับการปกปิด และเฉดสีที่ต้องการ รวมไปถึงเลือกค่า SPF และ PA ให้เหมาะกับกิจกรรมในแต่ละวัน หากใครที่ต้องออกแดดหนักๆ หรือเน้นกิจกรรม outdoor แนะนำว่าให้ใช้กันแดดที่มีคุณสมบัติกันน้ำโดยเฉพาะที่เพิ่มขึ้นจะเหมาะกว่า
– หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อของเพื่อนๆนะคะ –
–
disclaimer: products partially supported by
Biore (Thailand), Fasio (Thailand), Eucerin (Thailand), Garnier (Thailand),
Olay (Thailand), L’Oréal (Thailand), Mamonde (Thailand)