oHLa’s Journal :: เรื่องบ้านเรื่องใหญ่ ตอน ซื้อของแต่งบ้านอย่างไรให้คุ้มสุดๆ

บล็อกนี้ขอนำเสนอข้อมูลในการช้อปปิ้งข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน และของแต่งบ้านทั้งหลายให้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้กับเพื่อนๆกันนะคะ ช่วงนี้เป็นช่วงที่เก๋ต้องเตรียมตัวทั้งเรื่องแต่งงานและเรื่องบ้านให้เรียบร้อย .. อันที่จริงก็ใช้เวลาเตรียมตัวทั้งสองเรื่องนี้มาพักใหญ่ๆแล้วล่ะ อย่างเรื่องบ้านนี่ก็ดูๆมาแล้วก่อนหน้านี้ 2-3 ปีถึงตัดสินใจซื้อ (ไว้เขียนเรื่องการซื้อบ้านแยกไปอีกบล็อกนะคะ) สำหรับคนที่อยากแต่งบ้านใหม่หรืออยากซื้อของเข้าบ้านนั้น แนะนำว่าให้เล็งช่วงจังหวะโปรโมชั่นดีๆ ยิ่งถ้าเราต้องซื้อของจำนวนมากๆด้วย แล้วได้โปรโมชั่นจากร้านค้า แบรนด์สินค้าต่างๆ และบัตรเครดิต/หรือธนาคารต่างๆมาช่วยเสริมจะทำให้เราได้ของคุ้มค่าเงินมากที่สุด

หลังจากที่เราวางแผนเรียบร้อยว่าจะแต่งบ้านแนวไหน ต้องใส่องค์ประกอบและเครื่องใช้อะไรในบ้านบ้าง เราก็ควรเริ่มลิสต์รายการออกมาเป็นข้อๆ เก๋จะแยกรายการต่างๆตามแต่ละห้องในบ้านค่ะ อย่างเช่น ห้องรับแขก, ห้องครัว, ห้องนอน,  ห้องนั่งเล่น, สวน, …

ซื้อของแต่งบ้าน

พอเราได้ลิสต์รายการของที่ต้องซื้อเพิ่มมาแล้วก็เข้าสู่กระบวนการสำรวจตลาด ช่วงนี้ก็เริ่มหาข้อมูลของผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์เปรียบเทียบกันดูว่าชิ้นไหนที่น่าจะคุ้มราคา และได้ใช้งานในฟังก์ชั่นได้ครบเครื่องที่สุด เมื่อตัดสินใจได้คร่าวๆว่าจะซื้อของชิ้นไหน แบรนด์ไหนแล้วก็เริ่มตะลุยร้านค้าแต่ละที่เพื่อดูว่าราคาขายของแต่ละที่นั้นเท่าไหร่ มาก-น้อยต่างกันเยอะแค่ไหน?

.. ซึ่งจากที่สำรวจราคาขายของแต่ละที่มานั้นราคาไม่ค่อยต่างกันมากนะ ไม่ว่าจะเป็นใน Home Pro, บุญถาวร, Power Mall หรือ Power Buy ส่วนราคาจาก dealer ย่อยๆนั้นก็อาจจะหลากหลายกันไปแต่ไม่ค่อยหนีกันมากเท่าไหร่ สิ่งที่ต้องมาเทียบกันให้ step ต่อไปก็คือโปรโมชั่นที่เพิ่มขึ้นมา บางที่ใช้วิธีลดราคา บางที่อาจจะใช้วิธีแถมของเพิ่มเข้ามา ซึ่งตรงนี้ก็ต้องมาดูในรายละเอียดว่ามูลค่าของเงินที่ลดไปกับมูลค่าของของ ที่แถมอะไรมากกว่ากัน และถ้าเราเลือกเป็นของแถมมาจะได้ใช้ประโยชน์จริงรึเปล่า?

อย่างเช่น

ตอนนี้โฮมโปรฉลองครบรอบ 18 ปี ก็จะจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมกันเยอะมาก

แต่งบ้าน - โปรโมชั่นโฮมโปร

สินค้าที่ซื้อแล้วคุ้มค่าในโฮมโปรคือพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลาย

อย่างโปรโมชั่นของ Pen-K  (บริษัทที่นำเข้า smeg และ mex) ซื้อสินค้าในเครือฯครบ 108,900 จะได้ส่วนลด 9,000 บาท สรุปจ่ายไปแค่ 99,900

เครื่องซักผ้าของ Siemens ก็ลดราคาหน้าร้านมา 2 สเต็ป ซึ่งถ้าเรามาดูในรายละเอียดราคาขายที่หน้าร้านเค้าจะลดราคาลงมา 1-2 สเต็ปแล้ว พอได้โปรโมชั่นส่วนลดของร้านค้าและธนาคารอื่นๆเพิ่มเข้าไปก็จะคุ้มมากขึ้น ยังไม่หมดแค่นั้น โปรโมชั่นเสริมเพิ่มเข้ามาอีกของ Home Pro กรณีช้อปครบตามจำนวน ครบ 200,000 บาท ได้ gift card คืน 10,000 บาท บัตรเครดิตอื่นๆก็จะได้เครดิตเงินคืน/ ส่วนลดตามสัดส่วน

แต่งบ้าน โปรโมชั่นโฮมโปร

แต่งบ้าน โปรโมชั่นโฮมโปร

สรุปช้อป Home Pro ใช้บัตร Citibank กับ บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ จ่ายไป 223,700 ได้ของมูลค่า 267,290

แล้วได้ gift voucher กลับคืนมาอีก 11,000 พร้อมกับเครดิตคืนเงินอีก 300 บาท

>> สรุปส่วนลดรวมกับ gift card และ voucher ต่างๆเป็น 54,890 คิดเป็นส่วนลด 20.53%

ซื้อของแต่งบ้าน - โปรโมชั่น โฮมโปร

บุญถาวรนั้นจะมีโปรช้อป (ทุกแผนก) ครบ 70,000 ได้ gift voucher คืน 1,000 บาท ในส่วนของบัตรต่างๆที่ร่วมรายการ อย่างเช้า Citibank จะได้เครดิตเงินคืนอีก 750 บาท บัตรกสิกรไทยมีโปรฯผ่อน 0% ของที่ซื้อในบุญถาวรแล้วคุ้มๆส่วนมากก็จะเป็นพวกกระเบื้องและเครื่องสุขภัณฑ์ ข้าวของที่ใช้ในห้องน้ำทั้งหลาย เพราะพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าในบุญถาวรจะไม่ค่อยครบเท่าไหร่

โปรโมชั่นบุญถาวร

ที่บุญถาวรจ่ายเงินไป 97,845 บาท ได้ของมูลค่า 114,637 บาท

ได้ voucher คืน 1,000 บาท กับเครดิตเงินคืนอีก 750 บาท

>> สรุปส่วนลดรวมกับ gift card และ voucher ต่างๆเป็น 18,542 คิดเป็นส่วนลด 16.17%

อย่างเครื่องกรองน้ำ Stiebel มา ซึ่งที่บุญถาวรและโฮมโปรให้ข้อเสนอลดราคาเหลือ 10,990 แต่พอมาดูที่ Power Mall เค้ามีโปรให้เลือก 2 อย่าง คือ เลือกรับเป็นส่วนลดประมาณ 2,000 บาท กับเลือกรับของแถมเป็นไส้กรองเพิ่ม 1 ชิ้น เมื่อคำนวนความคุ้มค่าแล้ว เก๋เลือกไส้กรองแถมเพิ่มมา 1 ชิ้นแล้วจ่ายค่ากรองน้ำในราคาเต็ม เพราะไส้กรองนั้นราคาขายอยู่ที่ 2,890 บาท พอเทียบมูลค่าแล้วคุ้มกว่ากันเห็นๆ ในโปรโมชั่นของ Power Mall เองก็มีโปรช้อป (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ) ครบ 50,000 บาทได้ gift voucher คืน 1,300 บาทเพิ่มเข้ามาด้วย

ซื้อของแต่งบ้าน โปรโมชั่น Power Mall

ที่ Power Mall จ่ายเงินไป 53,145 บาท ได้ของมูลค่า 56,260 บาท

ได้ voucher คืน 1,300 บาท

>> สรุปส่วนลดรวมกับ gift card และ voucher ต่างๆเป็น 4,415 คิดเป็นส่วนลด 7.85%

เพื่อนๆที่ซื้อบ้านใหม่จากโครงการก็อาจจะได้ voucher จากโครงการมาช่วยแบ่งเบาค่าแต่งบ้านได้บ้างบางส่วนนะคะ พวก voucher ค่าเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลายจากค่ายใหญ่ๆ อย่าง SB furniture, Index, Modernform, … หรือบางทีโครงการอาจจะมีดีล built-in พิเศษกับโรงงานไว้อยู่แล้วก็จะช่วยลดค่าใช้ได้เราไปได้บ้าง ถ้ากรณีที่ไม่มีดีลพวกเฟอร์นิเจอร์ก็อาจจะลองดูว่าเราจะซื้อของช่วงเวลาไหน อย่างเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านส่วนมากจะจัดลดราคาเยอะๆช่วงกลางปี ตั้งแต่ พ.ค.-ส.ค. ถ้าเราซื้อของในช่วงนั้นพอดีก็จะได้ส่วนลดเพิ่มอีก พวกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวถ้าต้องการงานไม้ก็อาจจะลองดูแถวย่านบางโพนะคะ ถ้าซื้อน้อยชิ้นหรือพวกชิ้นเล็กๆอาจจะไม่คุ้มค่ารถไป-กลับ แต่ถ้าซื้อชิ้นใหญ่ๆหรือจำนวนเยอะๆคุ้มแน่นอน

ส่วนบรรดา voucher ที่ได้มาก็ลองบริหารจัดการดูว่าจะเอาไปใช้ซื้อของอะไรที่สำคัญๆเพิ่มเติม รวมๆแล้วก็พอจะได้ของใช้พอสมควรเลยล่ะ

ซื้อของแต่งบ้าน

oHLa’s tips

การช้อปปิ้งลักษณะนี้ควรวางแผนควบคุมการซื้อให้ดี ทั้งลิสต์รายการของสำคัญต้องมีครบไม่ตกหล่น เตรียม budget และเช็ควงเงินในบัตรเครดิตของเราให้พร้อมกับการเข้าสมรภูมิช้อปปิ้ง เวลาเจอ sales ของแต่ละที่อย่ากลัว ต้องการข้อมูลอะไรให้ถามให้ละเอียดและครบที่สุด เตรียมจดข้อมูลราคา และส่วนลดต่างๆของแต่ละที่ให้ครบถ้วน เราไม่จำเป็นต้องซื้อของทันทีในวันที่เราสำรวจราคา เมื่อข้อมูลของแต่ละที่ครบถ้วนก็กลับไปช่วยกันคิดกับคนทางบ้านก่อนแล้วค่อยกลับมาซื้อในวันอื่นๆที่ยังมีโปรโมชั่นได้  ที่ไหนคุ้มสุด พนักงานบริการดี ได้เงื่อนไขที่เหมาะสมกับสภาพคล่องของเราก็เลือกซื้อที่นั่นค่ะ สำหรับเก๋เองใช้เวลากว่า 3 เดือนในการเลือกซื้อและตัดสินใจซื้อของแต่งบ้านพวกนี้ ซึ่งถามว่าคุ้มกับที่เสียเวลาแพลนไม๊ บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก เบ็ดเสร็จแล้วเก๋ได้ของทุกอย่างรวมมูลค่าราวๆ 6 แสนบาทในราคาประมาณ 4 แสนบาทเท่านั้น

การคำนวน step promotion ต่างๆก็ควรแพลนให้รอบคอบว่าจะจ่ายเงินคืนแบบไหน จะจ่ายเต็มวงเงินไปเลย หรือผ่อนจ่าย 0% ปัญหาที่เก๋เคยเห็นและได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เมื่อสมัยที่ทำงานอยู่ธนาคาร คือ ความประมาทไม่รอบคอบในการวางแผนชำระเงินคืน ทำให้เงินชอต แล้วสุดท้ายจากที่ได้ดีลดีๆ ราคาประหยัด กลายเป็นว่าต้องมาจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มให้กับบัตรเครดิตมันไม่คุ้มกัน บัตรเครดิตต่างๆมีประโยชน์เสมอเมื่อเรารู้จักใช้มันอย่างชาญฉลาด แต่ในทางกลับกันถ้าเราขาดสติ ไม่วางแผนการใช้จ่าย รวมถึงไม่มีวินัยในการจ่ายเงินคืนมันก็อาจจะเป็นโทษร้ายกับตัวเราเองได้เช่นกันค่ะ