oHLa’s Journal :: Wedding Diary 4 มาถ่ายรูปกันเถอะ

หนึ่งในเรื่องที่ชวนปวดหัวที่สุดของการเตรียมตัวและจัดงานแต่งงานสำหรับ เก๋คือเรื่องของการถ่ายภาพและวิดีโอ ในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะกลายเป็นธรรมเนียมกันไปแล้วว่าจะต้องมีภาพถ่ายคู่ รักก่อนแต่งงานรวมถึงการถ่ายวิดีโอเล่าเรื่องราวต่างๆของคู่รัก .. ซึ่งถ้าต้องจ้างทีมงานฯก็ต้องใช้งบฯค่อนข้างมากพอสมควร บางเสียงมักจะพูดว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เท่าไหร่ก็ยอมทุ่ม .. สำหรับเก๋แล้วคงไม่ใช่ เพราะมีอีกหลายสิ่งที่อยากทำ แต่ถามว่าอยากได้ภาพคู่ไม๊? ตอบเลยว่าอยากได้ เพราะปกติแล้วแทบไม่ค่อยมีรูปคู่กับคุณแฟนเลย ..บังเอิญว่ายุคดิจิตัลนั้นมาตอนที่เราอยู่ในช่วงวัยทำงานแล้วก็เลยไม่ค่อย คุ้นกับการถ่ายรูปตัวเองสักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองบ้างแล้ว แต่ก็เขินทุกครั้งที่ต้องถ่ายภาพ selfie ในที่สาธารณะ

แนวความคิดและเหตุผลในการถ่ายภาพคู่ครั้งนี้จึงเป็นแนวทางที่ต้องการสะท้อน อารมณ์ ความรู้สึก ความผูกพันของเราทั้ง 2 คน ตลอดระยะเวลาที่คบกันมา 16 ปีมากกว่า อีกอย่างคุณแฟนเก๋ยิ่งไม่คุ้นชินกับการถูกถ่ายภาพแบบจริงจัง นี่จึงเป็นอีกสิ่งที่ทำให้ mission นี้มีโจทย์ค่อนข้างยากมากๆ

วางแผนการถ่ายภาพ

อย่างที่เคยบอกในบล็อกเก่าๆไปบ้างแล้วเรื่องคู่คิดในการช่วยจัดการเตรียมงานต่างๆ นั้นสำคัญมาก และในเรื่องการถ่ายภาพนี้เก๋โชคดีตรงที่เพื่อนๆสมัยป.ตรีหลายคนต่างก็อยู่ใน แวดวงงานโฆษณาและถ่ายภาพ ครั้งนี้ได้จี๊ดเพื่อนสาวที่ทำงานในแวดวงถ่ายทำโฆษณาและภาพยนตร์มา ช่วย guide และเป็น mentor ให้เราเรื่องของการวางแผนแนวความคิดและ concept ให้เป็นรูปร่างที่ชัดเจนขึ้นก่อนจะคุยกับทีมงานถ่ายทำฯ

สิ่งที่เพื่อนบอกให้เตรียมมาคือภาพตัวอย่างแนว mood board และ concept outline (ใครที่เคยผ่านงานสายโฆษณาคงเข้าใจได้ทันที) หลังจากตีลังกานอนคิดไปร่วม 3 เดือน ก็รวบรวมภาพต่างๆส่งให้เพื่อนรักเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ mood & emotion, interview & action และ behind the scenes

Slide1 Slide2 Slide3

พอได้ concept ที่ชัดเจนแล้วคราวนี้การคุยงานก็เริ่มง่ายขึ้น ครั้งนี้เราได้แกนนำทีมตัวแม่อย่างพี่เอส An8ther มาช่วยสานต่อ เมื่อมีภาพตัวอย่างคร่าวๆแล้วการทำความเข้าใจในรูปแบบงานให้ตรงกันก็ง่ายมากขึ้น โจทย์ที่ให้พี่เอสไปคือ ขอภาพที่เราเห็นในวันที่งอนกัน โกรธกัน หรือไม่พอใจกัน แล้วทำให้เราหยุดความคิดต่างๆในเชิงลบออกไป

เตรียมทุกสิ่งให้พร้อมก่อนวันนัด

ก่อนถึงวันนัดการเตรียมสภาพร่างกาย ผิวหน้า และสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมากๆที่มองข้ามไม่ได้ การพักผ่อนให้เพียงพอ ใช้ครีมบำรุงที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นและช่วยให้ผิวดูเนียนสวยเป็นสิ่งสำคัญ หลายคนอาจจะคิดว่าลำพังการแต่งหน้าและการแต่งภาพสามารถเก็บรายละเอียดทั้งหมดได้อยู่แล้ว .. ซึ่งในส่วนนี้เก๋มองว่าอาจจะได้ไม่ทั้งหมด 100% ฉะนั้นก็จะประโคมครีมบำรุงต่างๆ รวมถึงนัดทำทรีทเมนต์ผม ทำเล็บ นวดหน้า นวดตัว ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ เพื่อให้ร่างกายและสมองคลายความเครียดจากการทำงานก็จะช่วยให้เราพร้อมที่จะทำสิ่งดีๆให้เกิดขึ้น

 –

1 วันเต็มๆกับการถ่ายทำ ตั้งแต่ 8 โมงเช้า – 2 ทุ่ม

วันที่ถ่ายภาพกันก็เตรียมเสบียงไปส่วนหนึ่ง และก็เตรียมพวกครีมบำรุงต่างๆไปด้วยเผื่อฉุกเฉิน ระหว่างที่เราแต่งหน้าก็จับคุณแฟนมาส์คหน้าและมาส์คตาไปพลางๆ ส่วนตัวเก๋เองมาส์คผิวมาจากบ้านก่อนแล้ว ผลลัพธ์ของการเตรียมผิวให้พร้อมทำให้ผิวใสสุดๆ ส่งผลให้แต่งหน้าง่ายสุดๆ

prewed quickfix

สิ่งที่เสริมเพิ่มขึ้นมาเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีก็คือเสียงเพลง และกลิ่นหอมๆ วันนั้นพอทีมงานมาครบ ก็รีบหยิบ room spray ไปให้ทีมงานทุกคนดมก่อนเพื่อเช็คว่าโอเคกับกลิ่นไม๊? (คือถ้ามีใครซักคนไม่โอเคกับกลิ่นก็คงอดฉีด เพราะฉะนั้นใครที่คิดว่าจะพกเครื่องหอมพวก room spray เทียน หรือน้ำหอมอื่นๆไปควรจะเลือกด้วยความระมัดระวังนะคะ อย่าลืมว่าเราต้องคิดถึงคนอื่นๆในทีมงานด้วย) พอช่วงที่ถ่ายภาพก็ฉีด room spray ไปให้พอได้กลิ่นบางๆ เปิดเพลงเพราะๆคลอ ช่วยให้ feelings ที่ถ่ายทอดออกมาไหลลื่นไปง่ายขึ้น

prewed mix

เรื่องของชุดนั้นบางทีมอาจจะมีข้อเสนอการเตรียมชุดมาให้ด้วย ส่วนของเก๋นั้นทางเราเตรียมชุดไปเองคนละ 5-6 ชุด  ซึ่งจะใช้ถ่ายจริง 3 ชุด มีทั้งชุดลำลอง กึ่งทางการ และทางการ ทั้งที่มีอยู่แล้วและที่ซื้อใหม่บางส่วน เครื่องประดับและพร็อพต่างๆอีกส่วนหนึ่ง รองเท้าของผู้ชาย 2-3 คู่ ส่วนผู้หญิงก็เตรียมไปเผื่อสัก 5-6 คู่ (ของเก๋ไม่ต้องเตรียมอะไรมากเพราะมีรองเท้าอยู่ท้ายรถไม่ตำกว่า 20 คู่ ;D) ส่วนพี่เอสก็รอบคอบมากช่วยเตรียมพร็อพมาเผื่อสำรองไว้ให้เราอีกเพียบ

prewed 1

 

oHLa’s tips

สำหรับใครที่กำลังวางแผนเตรียมตัวถ่ายภาพก็อาจลองใช้แนวทางในการเตรียมงานและเตรียมตัวตามนี้ก็ได้ เตรียมตัวหา references สำหรับภาพที่ต้องการแล้วปรับเปลี่ยนรายละเอียดให้เหมาะสมกับคู่ของตัวเอง ถ้าแพลนว่าจะถ่ายภาพ outdoor นอกสถานที่ไกลๆก็ควรจะเตรียมเวลาพักผ่อนให้มากๆจะได้ไม่ดูอิดโรยระหว่างถ่ายทำ และควรจัดตารางถ่ายภาพให้ห่างจากงานแต่งงานอย่างน้อยสัก 2-3 เดือนเผื่อเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อน และเผื่อเวลาให้ทีมงานได้จัดเตรียมภาพผลงานให้ออกมาดูสมบูรณ์แบบที่สุด และถ้าเป็นไปได้ให้ทำ checklists รายการของที่ต้องใช้ในวันถ่ายภาพ หากบนรถพอจะมีพื้นที่เหลือก็ทยอยขนของที่ต้องใช้มาวันละนิดวันละหน่อยก็ได้จะช่วยทุ่นแรงไปได้อีกเยอะ ทยอยตรวจเช็ครายการของทีต้องใช้ด้วยนะคะจะได้ไม่ลืมของสำคัญและไม่ต้องต้องขับรถกลับบ้านให้เสียเวลา

prewed  9Aug2014 with an8ther team

ขอบคุณทีมงาน An8ther ทุกๆคน ทั้งพี่เอส, น้องไอซ์, น้องโอ, น้องฮอล, น้องบัง และน้องเฟย์ ทั้งการแต่งหน้า ทำผม ภาพถ่าย วิดีโอ ทุกคนน่ารักเป็นกันเอง และเป็นมือโปรจริงๆค่ะ ที่สำคัญที่สุดขอขอบคุณพี่เอสที่มองทุกอย่างทะลุปรุโปร่งและจัดเตรียมทุกสิ่ง พร็อพต่างๆที่เตรียมมาชนิดที่เรียกว่าเหลือเฟือ ทำให้ทุกการทำงานออกมาสอดคล้องราบรื่นชนิดว่าไม่มีอะไรติดขัดเลยแม้แต่เรื่องเดียว  🙂 ที่ขาดไม่ได้คงต้องขอบคุณน้องไอซ์และน้องบังที่ช่วยเรียกเสียงหัวเราะให้กับพวกเราทุกๆคนในวันนั้น