REVEAL • REVIEW by oHLa :: มหากาพย์ Makeup Remover ตอน ราคาต่ำกว่า 500 บาท

Posted by oHLaLive on สิงหาคม 29, 2014 in beauty, REVEAL • REVIEW | 3 ความเห็น

ช่วงปีที่ผ่านมาเห็นค่ายเครื่องสำอางใหญ่ๆทั้งหลายออกผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางมาแข่งกันเยอะมาก

บล็อกนี้ขอหยิบเอาตัวล้างเครื่องสำอางที่หาซื้อได้ง่ายๆตามซุปเปอร์มาร์เก็ต

หรือตามร้านขายยาทั่วๆไปอย่างวัดสันหรือบู้ทส์ และมีราคาต่ำกว่า 500 บาท

มาลองเช็ดให้ดูเพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกซื้อของเพื่อนๆกันนะคะ

–

ใน phase แรกขอรวบรวมมา 5 แบรนด์ 5 รุ่น ดังนี้ค่ะ

Biore 2 in 1 Makeup Remover Foam

Nivea Acne Care Makeup Clear 3 in 1

L’oreal Skin Perfection 3 in 1 Purifying Micellar Solution

Neutrogena Deep Clean Makeup Cleansing Water

Bifesta Cleansing Express Sebum Cleansing Lotion

–

–

ส่วนบรรดาเครื่องสำอางที่จะมาช่วยทดสอบประสิทธิภาพก็คือ

Diorskin Forever

Make Mania Data Crayon Eyeliner

Shu Uemura Crayon Eyeliner

Anna Sui Crayon Eyeliner

Loretta Liquid Eyeliner

Chanel Le Blanc Concealer

Bourjois Bronzing Primer

–

–

ชิ้นแรกที่นำมาลองให้ดูก็คือ Biore 2 in 1 Makeup Remover Foam

เป็นโฟมล้างหน้าที่เคลมว่าสามารถล้างเครื่องสำอางได้เกลี้ยงในขั้นตอนเดียว

ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง จะใช้วันที่แต่งหน้า หรือวันที่ไม่แต่งหน้าก็ได้่

–

–

มาลองกันค่ะว่าลบอะไรได้แค่ไหน

วิธีใช้ข้างหลอดเค้าบอกว่า “ให้ชโลมน้ำบนผิวให้เปียกก่อนแล้วค่อยนวดโฟมลงผิว”

– –

เริ่มนวดไปประมาณ 5 วิ

เครื่องสำอางบางส่วนก็เริ่มละลาย

แต่พวกอายไลเนอร์แบบ crayon และ concealer นี่ยังคงติดแน่นบนผิว

–

– หลังจากนั้นลองนวดไปอีกสักพักแล้วล้างน้ำออกก็ได้ผลอย่างที่เห็นค่ะ

ทั้งรองพื้น, concealer, bronzer และ liquid eyeliner หลุดเกลี้ยง

สิ่งที่หลงเหลืออยู่คือ crayon eyeliner

มาก-น้อยแล้วแต่ความคงทนของแต่ละยี่ห้อ

–

จากนั้นเก๋ลองลงโฟมเพิ่มอีกนิดหน่อย แล้วนวดผิวประมาณ 20 วิ

และนี่คือผลลัพธ์ที่ได้

tada!

–

บริเวณที่แดงๆนั่นคือ ออกแรงนวดผิวมากขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยค่ะ

–

ชิ้นต่อมาก็คือ NIVEA Acne Care Makeup Clear 3in 1 Mud Foam

เป็นโฟมล้างหน้าที่เคลมว่าช่วยกำจัดความมันบนผิว ป้องกันปัญหาผิวและสิว 10 อย่าง

–

–

เครื่องสำอางพร้อมละมาลองกันเลย!

–

–

พรมน้ำให้ทั่วผิวค่ะ

–

–

บีบโฟมโลด

–

–

นวดผิวไปเรื่อยๆ

–

–

หลังจากล้างน้ำครั้งที่ 1

ผลลัพธ์ที่ได้คือ รองพื้น, concealer และ crayon eyeliner ยังหลงเหลืออยู่บางส่วนค่ะ

–

–

เอาล่ะ เราลงโฟมเพิ่มแล้วล้างกันอีกรอบ

และนี่คือผลลัพธ์ที่ได้

–

ตอนล้างผิวครั้งที่ 2 นี่เก๋ลงน้ำหนักการนวดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จะเห็นได้ว่าผิวมีรอยแดงอยู่จางๆ

คราบเครื่องสำอางของ Makemania Data Crayon Liner ยังเหลือตกค้างอยู่นิดหน่อยค่ะ

–

เอาล่ะ ตัวอย่างด้านบนคือโฟมล้างเครื่องสำอางนะคะ

ต่อไปเรามาดูพวกโลชั่นน้ำสำหรับเช็ดเครื่องสำอางกันมั่ง

ขอเสนอผู้ท้าชิงรายแรกนั่นก็คือน้องใหม่แกะกล่องจากค่ายลอรีอัล

L’oreal Skin Perfection 3 in 1 Purifying Micellar Solution

เคลมว่าเช็ดเครื่องสำอางชนิด waterproof ได้หมดจด

อ่อนโยนไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง แล้วก็ช่วยให้ผิวดูไบรท์ขึ้นด้วย

–

–

เครื่องสำอางพร้อม!

–

–

สำลี 1 แผ่น เทผลิตภัณฑ์ให้ชุ่มและทั่วถึง

–

–

แยกสำลี 1 แผ่นเมื่อสักครู่ออกมาเป็น 2 ชิ้นแล้วแปะลงผิวได้เลย

–

–

นี่คือผผลลัพธ์หลังจากแปะทิ้งไว้บนผิวประมาณ 20 วิ แล้วปาดสำลีออก 2 ครั้ง

–

–

เช็ดครั้งที่ 2 โดยเท L’oreal Skin Perfection ลงบนสำลีแผ่นใหม่

ปาดไปอีก 1 ครั้ง

เครื่องสำอางออกเกือบหมดละ

–

–

แปะทิ้งไว้อีกประมาณ 10 วินาทีแล้วปาดออก

ผลลัพธ์ที่ได้คือแบบนี้

–

–

ผู้ท้าชิงอีกรายนึง ได้แก่ Neutrogena Deep Clean Makeup Cleansing Water

–

–

น้ำยาเช็ดเครื่องสำอางตัวนี้วางขายในตลาดได้สักพักแล้ว

ลักษณะของแพคเกจเป็นขวดปั๊มใช้งานง่าย

ตัวผลิตภัณฑ์เองมีกลิ่นหอมอ่อนๆ

เอาล่ะมาลองดูกันว่าเค้าจะลบเครื่องสำอางได้ดีแค่ไหน

makeup พร้อม!

–

–

กดน้ำยาลงบนสำลี 1 แผ่นชุ่มๆ

–

–

แยกสำลีออกเป็น 2 ชิ้น

แล้วแปะลงผิวทิ้งไว้ประมาณ 10-15 วินาที

–

–

ปาดสำลีออกมาครั้งที่ 1

จะเห็นว่ายังมีคราบเครื่องสำอางอยู่เยอะพอควร

–

–

ใช้สำลีแผ่นเดิมแปะลงไปอีก 15 วิ แล้วปาดออก

พวกคราบรองพื้น, คอนซีลเลอร์, บรอนเซอร์ และอายไลเนอร์แบบน้ำถูกลบออกจากผิวแล้ว

เหลือเฉพาะอายไลเนอร์แบบ crayon

–

–

เช็ดผิวด้วยสำลีแผ่นเดิมอีก 3-4 ครั้ง

และนี่คือผลลัพธ์ที่ได้

–

–

ชิ้นต่อมาที่ไม่พูดถึงไม่ได้

เพราะถือเป็นขวัญใจมหาชนชาวสยาม

ครองแชมป์มานานหลายปี

นั่นก็คือ Bifesta Cleansing Express Sebum Cleansing Lotion

–

–

–

ใช้วิธีเดียวกันคือแยกสำลีออกเป็น 2 แผ่น เท cleansing water ให้ชุ่ม

–

แปะลงผิว

–

–

หลังจากแปะไว้ประมาณ 20 วิ และเช็ดสำลีไป 2 ครั้งโดยใช้แผ่นเดิม

–

–

เช็ดสำลีแผ่นเดิมครั้งที่ 3

–

–

หลังเช็ดสำลีแผ่นเดิมครั้งที่ 5

เครื่องสำอางออกหมดแล้ว

–

–

 

–

oHLa’s comment

มาถึงตรงนี้แล้วเชื่อว่าหลายคนอาจจะเริ่มงงว่าควรซื้ออะไร รุ่นไหน ยี่ห้ออะไรถึงจะเหมาะ ถึงจะดี?

เก๋ขอสรุปอย่างนี้นะคะ

อันดับแรกต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าเราแต่งหน้าขนาดไหน?

–

สำหรับคนที่แต่งหน้าเบาๆ ลงแป้ง ปัดแก้ม แต่ตาเบาๆ ก็สามารถเลือกใช้โฟมล้างเครื่องสำอางได้เลย

แต่งเบามากหน่อยก็ NIVEA ถ้าเขียนอายไลเนอร์เบาๆเพิ่มเข้ามาก็ Biore

ข้อแตกต่างของ NIVEA กับ Biore นอกเหนือจากภาพที่เห็นด้านบนแล้วก็คือ ความตึงของผิวหลังล้างและกลิ่นที่ใช้

NIVEA จะเหมาะกับคนที่มีผิวค่อนข้างมัน ส่วน Biore นั้นหลังล้างผิวจะยังคงความชุ่มชื่นได้ดีกว่า ไม่ทำให้ตึงผิวมากนัก และอีกอย่างก็คือมีกลิ่นหอม citrus อ่อนๆด้วย

–

ส่วนใครที่แต่งหน้าเพิ่ม step ขึ้นมาอีกนิด

แต่ยังไม่ถึงขั้นแต่งหน้างานรับปริญญาแบบจัดหนัก หรือแต่งหน้านางโชว์

ก็สามารถเลือกใช้พวก cleansing water เช็ดเครื่องสำอางได้

ถ้าแต่งหน้าเบากว่าหน่อย อาจจะลองดู Neutrogena ก็ใช้ได้ดีพอควร แพคเกจออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน ไม่หกเลอะเทอะ ล้างเครื่องสำอางแบบปกติได้โอเค ส่วนพวกเครื่องสำอางที่ติดทนมากหรือกันน้ำได้ดีเจ้าตัวนี้อาจจะสู้ไม่ไหว

ส่วนใครมีผิวค่อนข้างไวต่อการระคายเคืองก็อาจจะลองดู L’oreal ก็โอเคค่ะ ไม่มีน้ำหอม ล้างออกเครื่องสำอางแบบปกติทั่วไปได้ดีพอควร แต่พวกเครื่องสำอางกันน้ำก็ต้องล้างกันหลายๆรอบหน่อย ข้อจำกัดนึงของลอรีอัลคือช่องเทผลิตภัณฑ์จมลงไป ทำให้เวลาที่เทโลชั่นลงสำลีแล้วหกเลอะเทอะง่ายไปนิด

ส่วนใครแต่งหน้าเยอะขึ้นมาอีกขั้นก็ใช้ Bifesta จะลบเครื่องคราบสำอางได้ง่ายกว่า L’oreal และ Neutrogena ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมเหมือนกัน ตัวแพคเกจก็เป็นแบบขวดปั๊มใช้งานง่ายไม่ค่อยหกเลอะเทอะ ถ้าใช้ลบเครื่องสำอางประเภทกันน้ำบางชนิด แนะนำให้ปั๊ม cleansing water ลงในสำลีให้ชุบแล้วแปะลงบนผิวประมาณ 10-20 วิแล้วค่อยๆปาดคราบเครื่องสำอางออกจากผิวจะช่วยออมแรงและลดความเสี่ยงในการทำให้ผิวเป็นรอยด้วย

–

สำหรับพวกมาสคาร่าทั้งหลาย รวมไปถึงลิปสติกนั้นยังคงแนะนำให้ใช้ cleansing oil นะคะ

เพราะจะช่วยออมแรงของเรา ไม่ต้องทึ้งขนตาและริมฝีปากมากเกินไป

รวมไปถึงสามารถทำความสะอาดคราบเครื่องสำอางที่ติดแน่นทนนานได้ดีกว่า

p.s. ถ้าได้ลองอะไรเพิ่มอีกจะเข้ามาเติมข้อมูลให้นะคะ

–

– หวังว่ารีวิวนี้คงเป็นประโยชน์ และให้ข้อมูลช่วยในการตัดสินใจซื้อของเพื่อนๆได้บ้าง –

NB. แต่ละคนมีสภาพผิว วิถีชีวิต และพันธุกรรมที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นอาจจะใช้แล้วได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปค่ะ

–

disclaimer: products partially supported by Bifesta (Thailand),

Biore (Thailand), L’oreal (Thailand), NIVEA (Thailand)