
ป้ายกำกับ
oHLa’s Journal :: Wedding Diary 3 กว่าจะเจอสถานที่ถูกใจ
แยกร่างไปจัดการเรื่องบ้านเกือบเดือน วันนี้พอจะมีเวลามาเขียนอัพเดท Wedding Diary กันต่อเรามาเริ่มกันเลยนะคะ
คราวที่แล้วเราสรุปรายละเอียดรูปแบบงาน จำนวนแขก และ scope งานแต่งงานได้แล้วก็เหมือนยกภูเขาออกไป 1 ลูก หัวข้อต่อมาที่ต้องทำการบ้านและตัดสินใจคือการเลือกสถานที่ที่เหมาะสม หลังจากทำการบ้านมา ทั้งจากเพื่อนผู้มีประสบการณ์ ทั้งหาข้อมูลจากอินเทอร์เนต ทั้งโทรติดต่อเซลล์ของโรงแรมโดยตรง แว่บไปงาน Wedding Fair ที่ศูนย์สิริกิตต์ และแวะไปดูตัวอย่างการจัดงานแบบจำลองในสถานที่จริง ในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกสถานที่ที่จะจัดงานได้เสียที
ก่อนที่จะมาเฉลยว่าเก๋เลือกที่จะจัดงานที่ไหนก็ขอเล่าเรื่องราวกันยาวๆสักหน่อยจะได้นึกภาพตามกันได้ง่ายๆ ส่วนตัวแล้วชอบรูปแบบงานที่ดูคลาสสิค เรียบง่าย และไม่อู้ฟู่ฟรุ้งฟริ้งมากนัก บวกกับชอบงานที่จัดในสวนที่มีต้นไม้สีเขียวและร่มเงาจากไม้ใหญ่แล้ว สถาปัตยกรรมแนว colonial ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ชอบมาก

ภาพตัวอย่างงาน
cr. prayapalazzo

ภาพตัวอย่างงานพิธี
cr. prayapalazzo

ภาพตัวอย่างงานพิธี
cr. prayapalazzo
เป้าหมายสถานที่จัดงานที่แรกที่นึกถึงขึ้นมาเลยก็คือ พระยาพาลาซโซ่ ที่นี่เป็นตึกเก่าอายุร่วม 100 ปี ถูกสร้างขึ้นมาใน พ.ศ. 2466 สมัยปลายรัชกาลที่ 5 บริเวณริมน้ำเจ้าพระยา ไม่ไกลจากท่าพระอาทิตย์และสะพานพระราม 8 มากนัก เดิมทีเป็นเรือนหอของพระยาชลภูมิพานิช และ คุณหญิงส่วน นอกจากเรื่องราวความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ บวกกับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เราอยากจัดงานที่นี่ แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องการเดินทางที่ค่อนข้างยุ่งยากสักหน่อยบวกกับพื้นที่นั้นค่อนข้างเล็ก สามารถจุจำนวนแขกได้สูงสุดเพียง 150 คนเท่านั้น และถึงแม้ว่าเราทั้งสองคนวางแผนว่าจะเชิญแขกไม่มาก แต่ด้วยว่าในงานจะมีทั้งแขกของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว รวมไปถึงบรรดาแขกของญาติผู้ใหญ่ ทำให้จำนวนแขกทั้งหมดดูจะเกินกว่าจำนวนที่ทางพระยาพาลาซโซ่จำกัดไว้ได้ สุดท้ายก็เลยต้องตัดใจและลองมองหาทางเลือกอื่นที่เหมาะสม
โชคดีที่น้องสาวมาช่วยทำการบ้านในส่วนนี้ด้วย ก็เลยผ่อนแรงและเวลาของเก๋ไปได้มากทีเดียว เธอช่วยติดต่อกับเซลล์ของโรงแรมหลายๆที่รอบๆโซนราชประสงค์
ทำไมถึงต้องเป็นโซนราชประสงค์?
.. เหตุผลหลัก คือ 1. เดินทางสะดวก และ 2. ไม่ไกลจากบ้านมากนัก สรุปก็ได้ลิสต์รายการและแพคเกจของโรงแรมต่างๆในย่านนั้น และละแวกใกล้เคียง เช่น Swissotel Park Nai Lert, Hyatt Erawan, Renaissance, Four Seasons, Plaza Athenee, Sukothai, Sofitel So, W Hotel และอื่นๆมาประกอบการตัดสินใจ

ภาพตัวอย่างสถานที่
cr. Sofitel So Bangkok

ภาพตัวอย่างการจัดงาน
cr. W Hotel Bangkok

ภาพตัวอย่างการจัดงาน
cr. W Hotel Bangkok
ในตอนนั้นความคิดค่อนข้างว่างเปล่า สับสน และมึนงงไปหมด เพราะไม่ได้มีภาพวาดและความคิดอื่นนอกจากการจัดงานแต่งงานในสวนริมน้ำแบบยุโรป และด้วยความคล่องแคล่วและชำนาญของน้องสาวนี่เอง (เธอผ่านการจัดงาน event มาหลากหลายรูปแบบ) ทำให้ช่วยตีกรอบความคิดและความต้องการจริงๆของเราได้มากขึ้น ช่วงนั้นทางโรงแรม Inter Continental ได้จัดจำลองงานฯในพื้นที่จริงให้ดูเป็นตัวอย่างและแนวทางในการตัดสินใจของคู่บ่าว-สาวพอดี ก็ลองแวะไปดูงานและสถานที่ ในงานจะจัดโต๊ะต่างๆ ซุ้มอาหาร ดอกไม้ ประดับประดาพื้นที่แบบ full-option ให้ได้ชมรวมถึงมีอาหารให้ได้ชิมกันด้วย ซึ่งพื้นที่สำหรับจัดงานแต่งของโรงแรม Interconฯ นั้นมีเพียง 2 ห้องหลักๆ คือ Grand Ballroom และ Pinnacle ซึ่ง Grand Ballroom นั้นจะจุแขกได้ที่ขั้นต่ำ 600 คน และ Pinnacle 250 คน เก๋ได้ดูแล้วก็ค่อนข้างชอบห้อง Ballroom ติดแค่ว่าพื้นที่ใหญ่เกินไปไม่สมดุลย์กับจำนวนแขกที่คิดไว้ ส่วนห้อง Pinnacle นั้นเก๋เคยไปร่วมงานเลี้ยงศิษย์เก่า สถร.ที่เพิ่งจัดไปเมื่อปีก่อน สิ่งเดียวที่รู้สึกติดขัดในใจนักคือเพดานที่ดูเตี้ย ทำให้รู้สึกอึดอัดและยังไม่ถูกใจเท่าไหร่
โรงแรมอื่นๆนั้นก็ได้ดูภาพประกอบที่ทางโรงแรมส่งมาให้ทาง email พื้นที่ที่เราชอบก็ไม่ว่าง ที่ว่างตรงวันพอดีเราก็ไม่ถูกใจ อย่างที่ Park Nai Lert นั้นเก๋ค่อนข้างชอบห้อง Lert Wanalai (ถึงแม้จะผิดคอนเซ็ปท์งานในสวนไปเยอะก็ตาม) ขนาดความจุก็กำลังดี ไม่ใหญ่โตมากเกินไป … แต่ห้องไม่ว่างค่ะ

ภาพตัวอย่างงาน
cr. Swissotel Nai Lert Park

ภาพตัวอย่างงาน
cr. Swissotel Nai Lert Park
หลังจากนั้นดูข้อมูลเยอะมากจากหลายๆที่แต่ไม่ได้ที่ๆปิ๊งสักทีจนเริ่มท้อ ตอนนั้นถึงขนาดพูดกับคุณแฟนและน้องสาวแบบปลงๆแล้วว่า ..”ไม่ต้องจัดงานเลยไม๊? เหนื่อยแล้ว” พักสมองหยุดคิดไป 2-3 วันเต็มๆก็ฮึดสู้กลับมาคิดกันใหม่อีกครั้งกับน้องสาว งานนี้น้องสาวและเพื่อนสาวจะช่วยเราได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีประสบการณ์การจัดงานแต่งงานมาก่อน หรือแม้แต่คนที่เคยทำงานด้าน organiser หรือ PR event ต่างๆ ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวนั้นก็จะช่วยได้ในเรื่องของการจัดสรรงบประมาณและการ อนุมัติงบฯเท่านั้น เรื่องการคิดและตัดสินใจในรูปแบบงานต่างๆว่าที่เจ้าสาวควรพึ่งพาเพื่อนเพศ เดียวกันจะดีกว่าค่ะ จะเป็นหญิงแท้ หรือหญิงเทียมก็ได้ เพราะความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงความเข้าใจและการสื่อสารกันดูจะง่ายกว่าคุยกับคุณผู้ชายเยอะค่ะ
สุดท้ายก็เลยเริ่มขยับขยายพื้นที่ออกมานอกๆกรอบราชประสงค์บ้างละ ทั้งโซนราชเทวี พญาไท สีลม สาทร บางรัก จนท้ายที่สุดวนมาดูโรมแรมที่ใกล้บ้านมากขึ้น คือ โรงแรมสุโกศล ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา เป็นโรงแรมที่เพิ่งปรับปรุงเปลี่ยนโฉมและชื่อใหม่มาได้ไม่กี่ปี จากเดิมรู้จักกันในชื่อ “สยามซิตี้โฮเทล” โรงแรมนี้ร่ำลือกันหลายเสียงว่าอาหารอร่อยมาก ในโรงแรมสุโกศลนั้นจะมีพื้นที่สำหรับจัดงานแต่งหลักๆอยู่ 2 พื้นที่คือ Ballroom และ Pavilion แน่นอนว่าพื้นที่ Ballroom นั้นเป็นพื้นที่สำหรับจุแขกจำนวนมากๆ เพราะฉะนั้นเก๋เองก็เบนเข็มไปทาง Pavillion ซึ่งเป็๋นลักษณะพื้นที่ในสวนตรงกลางระหว่างตึกใหญ่กับตึกเล็กของโรงแรมสุโกศลมากกว่า

ภาพตัวอย่างงาน
cr. The Sukosol
เดิมทีเราดูรูปภาพที่ทาง Sales ส่งมาให้ก็ยังรู้สึกเฉยๆ แต่พอไปดูพื้นที่จริงแล้วต้องบอกเลยว่าชอบสุดๆๆๆๆ ตั้งแต่ทางเดินเข้ามา รวมไปถึงขนาดของพื้นที่ที่ดูจะพอเหมาะพอดี เห็นว่าจุแขกได้ 200-350 คน ส่วนพิธีงานเช้าเดิมทีเรากะว่าจะไปที่ รพ. สงฆ์ เพราะไม่ไกลกันมากนัก แต่คิดไปคิดมาเรากลัวว่าจะเตรียมตัวไม่ทันเพราะต้องเดินทางไป-มา และอาจจะต้องฝ่ารถติดช่วงระหว่างวันด้วย ก็เลยดูสถานที่ในห้องรัตนโกสินทร์ที่โรงแรมเดียวกันไปเลยประหยัดเวลาเดินทาง และไม่ต้องเหนื่อยมาก

ภาพตัวอย่างงาน
cr. The Sukosol
เมื่อดูพื้นที่เสร็จแล้วทางโรงแรมก็พาไปลองชิมเมนูอาหารต่างๆ แนะนำว่าเลือกอาหารให้เหมาะสมกับสัดส่วนจำนวนแขก และเหมาะสมกับความชอบของแขกด้วย จะว่าไปเรื่องนี้ก็ค่อนข้างคาดเดาได้ยากถ้าเราไม่ทำการบ้านเรื่อง guest list มาก่อนให้ดี สำหรับเก๋นั้นจะดูสัดส่วนของแขกแต่ละช่วงวัยเป็นหลัก เพราะในแขกที่เป็นผู้ใหญ่ๆหน่อยก็จะชอบอาหารที่ทานอิ่มกำลังดี ไม่หนักท้องจนเกินไป ส่วนแขกที่เด็กๆก็มักจะชอบอาหารประเภทของทอด หรือจำพวกชีส และขนมหวานมากกว่า เมื่อสั่งรายการอาหารจากเมนูค็อกเทลแล้วก็ไม่ลืมที่จะสั่งซุ้มอาหารต่างๆที่ทานได้อิ่มท้องมาเพิ่มเติมด้วย เมนูพวกข้าว ก๋วยเตี๋ยว กระเพาะปลา ฯลฯ เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ
รายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ อย่างเช่น ธีมงาน การเลือกแสงสีเสียง ดนตรี งานพิธีต่างๆ อาจจะลองถามทางโรงแรมดูว่าเค้าพอจะมีบริการในส่วนนี้ด้วยไม๊? ซึ่งโดยมากสถานที่จัดงานแต่งแทบทุกที่จะมีแพคเกจพวกข้าวของเครื่องใช้ในงานพิธีการต่างๆไว้บริการอยู่แล้ว ส่วน deal หรือ โปรต่างๆอันนี้ก็ต้องไปคุยรายละเอียดกับทางเซลอีกครั้งนึงนะคะ
พอเลือกสถานที่และรูปแบบงานแต่งได้แล้วแนะนำให้รีบจองสถานที่และเตรียมเงินในการวางมัดจำให้พร้อมนะคะ จากที่อ่าน proposal ของ sales แต่ละโรงแรมมา เค้าจะระบุเงื่อนไขว่าต้องวางเงินมัดจำประมาณ 20-30% ของค่าใช้จ่ายประเมินทั้งหมดเพื่อจองวันเวลาและสถานที่ตามที่เราต้องการ ใครที่ใช้ฤกษ์ยอดนิยมทั้งหลายควรรีบตัดสินใจและรีบจองสถานที่แต่เนิ่นๆค่ะ
–
tips เล็กๆในการเตรียมตัวจัดงานฯที่ได้มาในครั้งนี้ ก็คือ
1. วางกรอบแนวความคิดให้ชัดเจนว่าเราอยากได้ภาพงานในแบบไหน เพราะนั่นจะทำให้เราเลือกสถานที่ได้ง่ายขึ้น ลองทำตัวเลือกของภาพวันงานออกมาสัก 2-3 แบบเพื่อช่วยย่นระยะเวลาในการหาข้อมูลทางเลือกด้วย
2. งานแต่งงาน คือ งานของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ก่อนจะเลือกหรือตัดสินใจอะไรควรจะยึดความชอบและความต้องการของบ่าว-สาวเป็นหลัก การปรึกษาเพื่อนฝูงหรือคนรอบข้างสามารถทำได้ แต่ควรหนักแน่นในความต้องการของเราทั้งคู่ด้วยเช่นกัน เว้นเสียแต่ว่าความชอบและความต้องการนั้นจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก หรือต้องแลกมาด้วยความยากลำบาก
3. เลือกสถานที่ไม่ไกลเกินไปจากบ้านของบ่าว-สาว และเดินทางสะดวก เผื่อว่าวันงานเราอาจจะลืมนู่นนี่ก็สามารถที่จะให้คนในครอบครัวกลับมาหยิบของนั้นๆไปให้เราที่งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ในทางกลับกันก็ต้องคำนึงถึงการเดินทางของแขกที่จะมาร่วมงานด้วยนะคะ อย่างน้อยก็ควรจะเป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้ถนนเส้นหลักที่มีระบบการจราจรและคมนาคมขนส่งค่อนข้างสะดวก และมีสถานที่จอดรถมากพอ สอดคล้องกับจำนวนแขกที่เราเชิญ
4. เลือกเมนูอาหารที่เหมาะสมกับรูปแบบของงาน ถ้าเลือกจัดอาหารแบบโต๊ะจีน การจัดผังรายชื่อแขกแต่ละโต๊ะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้แขกร่วมงานไม่เคอะเขิน บ่าว-สาวและเจ้าภาพควรจัดที่นั่งให้แขกที่รู้จักกันอยู่แล้วมานั่งโต๊ะเดียวกัน เพื่อเค้าจะได้พูดคุยอัพเดทกันในช่วงระหว่างงาน ในทางกลับกันนี่ก็เป็นโอกาสที่จะจับคู่เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ยังโสดอยู่ได้เหมือนกัน ;D หรือหากเลือกที่จะจัดงานในรูปแบบค็อกเทล ควรเลือกอาหารที่สามารถยืนทานได้อย่างถนัด เพราะถึงแม้ว่าในงานค็อกเทลจะมีการจัดวางโต๊ะและเก้าอี้รองรับให้ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ควรลืมว่าแขกบางส่วนอาจจะต้องยืนทานนะคะ
ขอบคุณสำหรับบทความดีดีสำหรับคนที่กำลังจะแต่งงานค่า ตอนนี้เรากำลังจะมีงานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ค่อนข้างฉุกละหุกมาก มีเวลาเตรียมงานแค่ 4 เดือนเศษ ชอบงานสไตล์เดียวกันกับเจ้าสาวรุ่นพี่เลยค่า พออ่านจบเลยรีบโทรถามรร.สุโกศลทันที garden pavilion ยังว่างค่ะ แต่หารูปทางเน็ตไม่ค่อยมี อยากรบกวนขอรูปวันงานได้มั๊ยคะ และถ้ามีคอมเม้นท์เกี่ยวกับสถานที่หรือแพ็คเกจช่วยแชร์หน่อยนะคะ ตอนนี้ไฟลนก้นมาก ขอบคุณมากๆค่ะ ^ ^