REVEAL • REVIEW by oHLa :: CHANEL CC Cream

Posted by oHLaLive on สิงหาคม 11, 2013 in beauty, REVEAL • REVIEW | 1 ความเห็น

CHANEL
CC Cream Complete Correction SPF30/PA+++
size 30ml., shelflife 18M
counter prize THB2,200.-

Chanel เป็นแบรนด์แรกๆที่ผลิต cc cream มาวางขาย หลายคนยังสงสัยอยู่ว่าแล้ว cc cream ต่างกับ bb cream ยังไง? ตกลงแล้วอะไรดีกว่ากัน? บางทีไปยืนหน้าเคาน์เตอร์ก็งงแล้ว เพราะแค่ขั้นตอนการเตรียมผิวให้เนียนกริ๊บก็มีทั้งเบสสี เบสใส tinted moisturizer กันแดดใส่สี คอนซีลเลอร์ รองพื้นเนื้อครีม เนื้อเหลว แบบน้ำ แบบแห้ง มาจนถึง bb cream และล่าสุดก็คือ cc cream

–

เก๋ขอสรุปแบบสั้นๆง่ายๆ คือ tinted moisturizer, bb cream, cc cream และรองพื้น .. ทุกชนิดที่พูดมาจะช่วยเน้นการปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ ซึ่งอาจจะมีระดับการปกปิดผิวที่มาก-น้อยต่างกัน ซึ่งหลักๆก็คือมีเนื้อผลิตภัณฑ์เป็นสีเนื้อหรือสีครีม จะ under tone ชมพู หรือ เหลืองก็แล้วแต่กันไป เพื่อให้กลมกลืนกับสีผิว

–

–

ส่วนคุณสมบัติหลักๆของ Chanel CC Cream ก็คือ ช่วยปกปิดจุดบกพร่องของผิว มีส่วนผสมของสารบำรุงผิว มีสารกันแดด .. เพราะฉะนั้นสามารถใช้แทนขั้นตอน 3 ขั้นตอนหลักๆนี้ได้ คือ การบำรุง + กันแดด + รองพื้น ได้ ซึ่งข้อเด่นของ CC Cream นี้ก็คือ ระดับการปกปิดที่มากพอสมควร และสีไม่เปลี่ยนระหว่างวัน

–

จากที่เก๋ทดลองทา CC Cream มา ทั้งใช้นิ้วปาด .. ใช้นิ้วปาดแล้วกดย้ำ .. ใช้นิ้วปาดแล้วซับด้วยฟองน้ำ .. ใช้ฟองน้ำปาดลงผิว .. ใช้ฟองน้ำแตะลงผิว .. ใช้แปรง .. สรุปได้ว่าวิธีการที่ดีที่สุดในการทา Chanel CC Cream ก็คือให้ใช้นิ้วค่อยๆแตะลงผิวทีละนิด แล้วค่อยๆกดย้ำจนทั่วทั้งผิวหน้า จะให้ texture ที่ดูบางเบามากที่สุด แต่ยังคงความปกปิดได้ดี

–

–

สำหรับ effect หลังการใช้นั้น เหมาะมากๆกับคนที่ชอบลุคผิวฉ่ำๆน้ำ หรือ dewy look ในระหว่างวันแทบไม่ต้องเติมแป้งเพิ่ม แค่ใช้ทิชชูซับผิวเบาๆก็สวยแล้ว ค่อนข้างเหมาะกับวันที่ไม่ท้าแดดท้าลมมากนัก ส่วนนี้ที่ต้องบอกแบบนี้เพราะว่าอากาศในประเทศไทย รวมถึงแดดนั้นแรงม๊ากกกกกกกกกก แรงมากเกินความจำเป็น เพราะฉะนั้นถ้าอยู่กลางแจ้งซัก 20-30% ต่อวันก็ยังใช้ Chanel CC Cream ไหวอยู่ แต่ถ้านานกว่านั้น แนะนำว่าอาจจะลองใช้รองพื้นรุ่นอื่นๆที่เนื้อแห้งๆหน่อย หรือช่วยคุมความมันได้มากหน่อยจะเหมาะสมกว่า ใครที่มีผิวแห้ง ผิวธรรมดา ผิวผสม สามารถใช้ Chanel CC Cream ได้เลยค่ะ แต่ถ้ามีผิวขาดน้ำแนะนำให้ลงครีมบำรุงที่เน้นการเติมความชุ่มชื่นให้ผิวมีสมดุลย์ควบคู่กันไปด้วยจะดีที่สุด ส่วนใครที่ผิวมันควรจะลองดูที่ผิวหน้าแล้วลองไปเดินเล่นนอกห้างสัก 20 นาที ดูว่ารับ effect ที่มีได้รึเปล่า ถ้ารับได้ก็สอยโลด อันนี้เป็นเรื่องความชอบส่วนตัวยังไงก็คงต้องให้ลองเองก่อนอ่ะเนอะ ^^

–

ข้อจำกัดของ CC Cream รุ่นนี้ ก็คือ มีจำหน่ายเพียงสีเดียว คือ เบอร์ 20  .. ก็ไม่แน่ใจว่าในประเทศอื่นๆเค้าจะมีหลายเบอร์ให้เลือกรึเปล่านะคะ แต่หลักๆก็เข้าใจได้ว่าเฉดสีนี้น่าจะเป็นเฉดสีหลักๆที่เกือบจะครอบคลุมสีผิวของชาวเอเชียแปซิฟิคได้ดรล่ะ ก็ต้องวัดดวงกันหน่อยว่าจะพอดีกับสีผิวรึเปล่า สำหรับใครที่มีสีผิวค่อนข้างขาว หรือสีผิวกลางๆก็ใช้ได้ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ส่วนใครที่มีผิวสองสีแนะนำให้ลองทดสอบที่ผิวหน้าก่อนและดูว่าเข้ากันกับีผิวไม๊ ค่อยตัดสินใจซื้อนะคะ

–

หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์นะคะ

NB แต่ละคนมีสภาพผิว สีผิว กิจวัตรประจำวัน และพันธุกรรมที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นอาจจะใช้แล้วได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปนะคะ

disclaimer: product supported by Chanel (Thailand)