Reveal • Review by oHLa :: Cleansing Brush (Clarisonic Mia 2, Philips Visapure, Olay Regenerist, Nyla)

ในบล็อกนี้เก๋ขอรวบรวมเอาแปรงล้างหน้าที่มีและใช้อยู่ 4 รุ่น

cleansing brush blog

คือ Clarisonic Mia 2, Philips Visapure, Olay Regenerist, และ Nyla New York

มาเขียนบอกเล่าประสบการณ์ให้ได้อ่านกันเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของเพื่อนๆนะคะ

แปรงท็อปฮิตที่สุดในโลกคงหนีไม่พ้น Clarisonic แบรนด์แรกๆที่บุกตลาดแปรงล้างหน้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์เรื่อยมา ถึงตอนนี้ก็มีวางจำหน่ายแล้วถึง 5 รุ่นด้วยกัน

คือ mia1, mia2, mia3, plus, และ pro แต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งาน และดีไซน์

Clarisonic Mia 2

Clarisonic Mia 2 ราคาขายในไทย 6-7,xxx

รุ่นที่เก๋ใช้อยู่ก็คือ รุ่น Mia 2 เป็นรุ่นที่ถูกออกแบบสำหรับคนที่ต้องการนำไปใช้ในยามเดินทางไปที่ต่างๆ

สิ่งที่โดดเด่นมากของ Clarisonic Mia 2 ก็คือ รูปทรงความโค้งมน และขนาดที่กระชับพอดี ทำให้ไม่หลุดมือเวลาใช้งานจริง

มีเคสพลาสติกไว้ใส่แปรง เวลาเดินทางไปไหนมาไหน รวมไปถึงความปลอดภัยของระบบวงจรไฟฟ้า ไม่ต้องกลัวว่าไฟจะช็อต เครื่องจะพัง

ตัวเก๋เองเคยทำตกพื้นอยู่ 2-3 ครั้ง เจ้าแปรงนี่ก็ยังคงอึดและถึกใช้งานได้ดีอยู่

ตัวเครื่องมีระบบการสั่น 2 ระดับ คือ ระดับความแรงแบบปกติ (universal) และระดับความแรงที่นุ่มนวลกว่าปกติ (delicate)

ลักษณะการสั่นของหัวแปรงของ Clarisonic คือ การสั่นครึ่งรอบวงซ้ายและขวา

ถ้านึกไม่ออกให้ลองนึกภาพเวลาพ่อค้าเขย่าถังไอติมหลอดดูค่ะ ทิศทางการหมุนแบบนั้นแหละ แต่เร็วกว่ามากกกก

หัวแปรงของ clarisonic นั้นสามารถแกะออกและซื้อมาเปลี่ยนได้ มีวางขายทั้งหมด 10 รุ่น

คือ normal, deep pore, sensitive, delicate, acne, cashmere, satin, smart, radiance, และ luxe

สำหรับหัวแปรงที่เก๋ใช้อยู่คือ  รุ่น sensitive ที่แถมมากับตัวเครื่อง ซึ่งพูดกันตรงๆเลยว่าขนแปรงรุ่นนี้ค่อนข้างแข็งเกินกว่าจะใช้ชื่อว่า sensitive นะ

ส่วนตัวแล้วคิดว่าเหมาะกับใช้ขัดตัวมากกว่าขัดหน้า

ได้ยินมาว่าถ้าใช้ขนแปรงรุ่น luxe มันจะเริ่ดกว่านี้หลายสิบเท่า แต่ยังไม่ได้ซื้อซะที

 –

Philips Visapure ตัวนี้เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2014 นี่เอง ในไทยมีขายทั้งหมด 2 รุ่นคือ SC5275 สีพีช และ SC5265 สีฟ้า

ความแตกต่างของสองรุ่นนี้ก็คือ จังหวะการสั่นของหัวแปรง และจำนวนหัวแปรงที่แถมมาในกล่อง

สีฟ้าจะมีเพียงแค่ 1 หัวแปรง คือแบบ normal และมีจังหวะการสั่นเพียงจังหวะเดียวเท่านั้น

ในขณะที่สีพีชมีหัวแปรง 2 แบบ คือ normal และ sensitive และมีจังหวะการสั่น 2 แบบ

ส่วนระบบการชาร์จแบตนั้นก็เหมือนกัน คือ จะมีแท่นตั้งมาให้พร้อมกับสายชาร์จ

Philips Visapure

Philips Visapure SC5275 ราคาขายในไทยประมาณ 7,xxx

รุ่นที่เก๋ใช้อยู่ ก็คือ รุ่นนี้ สีพีช ที่มีหัวแปรง 2 ชิ้น ขนแปรงรุ่น normal ก็คืออันที่มีสีขาวล้วน ลักษณะขนแปรงค่อนข้างแข็งและมีซี่ห่าง

ในขณะที่ขนแปรงแบบ sensitive นั้นจะฟู นุ่ม และแน่นกว่ามาก

ส่วนตัวแล้วเก๋ชอบขนแปรงแบบ sensitive เพราะใช้แล้วให้สัมผัสนุ่มถนอมผิวได้ดี

แต่ถ้าใครไม่ชอบหัวแปรงที่แถมมากับตัวเครื่องอยากจะใช้รุ่นอื่น เค้าก็มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นตามลักษณะการใช้งานที่ต่างกัน

คือ normal, sensitive, extra sensitive, deep pore cleansing, และ exfoliation

สิ่งที่ชอบมากๆสำหรับเจ้า Philips Visapure นี่ก็คือ หัวแปรงรุ่น sensitive ที่นุ่มฟู มีขนาดพอเหมาะพอดีกับหน้า

 รวมถึงทิศทางการหมุนของแปรงที่นอกจากหมุนวนแล้วยังมีจังหวะยืดหยุ่นขึ้นลง ช่วยรองรับน้ำหนักเวลากดหัวแปรงลงบนผิวหน้าด้วย

ในการกดสวิทช์เพื่อใช้งานแต่ละครั้ง ตัวเครื่องจะหมุนเป็นเวลา 60 วินาที แบ่งเป็น 20-20-20

ซึ่งในส่วนนี้ตามคำแนะนำในกล่องเค้าระบุว่าให้แบ่งโซนในการล้างหน้าออกเป็น แก้มซ้าย แก้มขวา และ t-zone ส่วนละ 20 วินาที

ฉะนั้นการกดสวิทช์ในแต่ละครั้งจะล้างหน้าได้ครบทุกส่วนอย่างสะอาดหมดจดในระยะเวลาที่เหมาะสมพอดีเป๊ะ

Olay Regenerist Cleansing Brush แปรงรุ่นนี้ขายแพคคู่กับเจลล้างหน้าของ Olay

และแถมถ่านมาให้อีก 2 ก้อนในแพค

ขนาดตัวแปรงค่อนข้างเล็กกว่า Clarisonic พอสมควร ขนแปรงนิ่มพอควร ระยะซี่ค่อนข้างห่าง

Olay Regenerist Cleansing Brush

Olay Regenerist ราคาขายในไทยประมาณ 1,000+/-

สำหรับแปรงรุ่นนี้ในความคิดเห็นส่วนตัวเก๋รู้สึกเหมือนว่าทางโอเลย์เค้าไม่ได้เน้นขายแปรง

แต่เน้นขายตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม regenerist มากกว่า ซึ่งตรงนี้เราซื้อเฉพาะตัวผลิตภัณฑ์มาใช้ก็ได้ค่ะ

(ใครงบไม่สูงมากอยากได้ครีม anti-aging ดีๆแนะนำให้ลองใช้ regenerist serum ดูนะคะ ได้ผลดีทีเดียวล่ะ)

Nyla New York อันนี้เป็นแปรงล้างหน้าระบบ manual ที่ซื้อมาจากร้านเจ้เล้ง

หลังจากไปเดินเล่นหาซื้อขนมก็ได้ฟังเจ๊เล้งประกาศขายสินค้านู่นนี่

ฟังไปเคลิ้มไป เดินดุ่มๆไปหยิบเจ้านี้ใส่ตะกร้าเฉยเลย ;D

Nyla New York

Nyla New York ราคา 80.-

ราคาถูกแสนถูก ถ้าจำไม่ผิด คือ 80 บาท

ขนแปรงนิ่มดีแต่ค่อนข้างบาง ทำให้หลุดและพังง่าย แต่ก็นะราคาเท่านี้จะคาดหวังอะไรมาก

ถ้าจะใช้เจ้าตัวนี้ก็แนะนำว่าต้องตีโฟมให้ขึ้นฟองก่อนแล้วค่อยเอาแปรงปาดฟองโฟมลงบนผิวหน้านะคะ

ซื้อมาใช้เล่นๆแก้เบื่อก็โอเคค่ะ อย่าจริงจัง

oHLa’s comment

ส่วนตัวเก๋แล้วทั้ง 4 แบบที่หยิบมาพูดถึงนั้น ในแง่ของการใช้งานจริง ชิ้นที่ชอบมากที่สุด คือ Philips Visapure

เพราะขนาดของหัวแปรงที่พอเหมาะ กับจังหวะทิศทางและน้ำหนักการหมุนของหัวแปรงนั้นกำลังดี และที่สำคัญเป็นชิ้นที่ซื้อทีเดียวแล้วจบ

ข้อติติงก็คือเรื่องของรูปทรงและวัสดุที่ใช้ จริงอยู่ว่าดีไซน์ที่ออกแบบมานั้นสวยงามน่าใช้ แต่ว่าพอใช้งานจริงด้วยความที่จะต้องจับด้ามแปรงตอนที่มือเปียกน้ำ

และด้วยความที่วัสดุค่อนข้างมันเงาก็ลื่นหลุดมือง่ายมาก (ทำหลุดมือมาแล้วสองรอบ ยังดีที่ว่าด้ามจับไม่แตกร้าว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะแตกเข้าสักวันรึเปล่า?)

ส่วน clarisonic ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีนะคะ เพียงแต่อย่างที่บอกข้างต้นแหละว่าซื้อชิ้นเดียวแล้วไม่จบ

หัวแปรงที่ขึ้นชื่อว่า sensitive แต่กลับให้ความรู้สึกว่าไม่ได้ถนอมผิวเลย ทำให้ต้องซื้อออปชั่นหัวแปรงรุ่นอื่นมาเสริมนู่นนี่ จากถูกจะกลายเป็นแพงก็คราวนี้

แต่ในแง่ของรูปทรง วัสดุที่ใช้ การออกแบบและความทนอันนี้ชอบมาก ต้องยกนิ้วให้จริงๆ

หยิบจับใช้แล้วกระชับไม่หลุดมือง่ายๆ ไม่ต้องกลัวพัง ไม่ต้องกลัวน้ำเข้าเครื่อง ไม่ต้องกลัวไฟช้อต

Q: อ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนอาจมีคำถามในใจว่าเราจำเป็นต้องใช้แปรงล้างหน้าหรือเปล่า?

A: ในความคิดเห็นของเก๋แล้วมองว่า “ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น” แต่เป็นทางเลือกและสิ่งที่เสริมขึ้นมาเพื่อทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น

และรู้สึกสนุกกับการทำความสะอาดผิวมากขึ้นก็เท่านั้น ใครที่ทรัพย์ถึงพอจะจ่ายได้ก็น่าลองดูค่ะ

– หวังว่ารีวิวนี้คงเป็นประโยชน์ และให้ข้อมูลช่วยในการตัดสินใจซื้อของเพื่อนๆได้บ้าง –

NB. แต่ละคนมีสภาพผิว วิถีชีวิต และพันธุกรรมที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นอาจจะใช้แล้วได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน

disclaimer: non-sponsored review