
ป้ายกำกับ
REVEAL • REVIEW by oHLa :: Dior Capture Totale Dream Skin
พร่ำเพ้ออยากได้มาครอบครองตั้งแต่เปิดแมกกาซีนต่างประเทศเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว
จนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเริ่มวางขายในไทยก็รีบพุ่งตัวไปเคาน์เตอร์
ลองๆอยู่ 2 ครั้งจนตัดสินใจพากลับบ้านมาด้วย
จนถึงบัดนี้ก็ลองใช้มาได้เกือบ 1 เดือนแล้วกับ Dior Dreamskin ที่ร่ำลือกันว่าขายดีจนขาดตลาดทั่วโลก
เพราะเปิดตัวในโซนยุโรปและเอเชียแปซิฟิคพร้อมๆกัน
–
- size: 30ml., shelflife: 12M
counter price THB4,000.-
–
สะดุดตากับสิ่งแรกเลยคือชื่อผลิตภัณฑ์ “Dreamskin”
… แหมผิวในฝันใครๆก็อยากมี จริงไม๊?
งานนี้น้องพนักงานไม่ต้องบรรยายเยอะ
ใจพร้อม ทรัพย์พร้อม หันไปยิ้มพร้อมบอกน้องพนักงานเบาๆ
“ขอชิ้นนี้ 1 ชิ้นค่ะ” ดิฉันก็เป็นอันเสียทรัพย์ไปแบบง่ายดาย ณ หน้าเคาน์เตอร์
;D
เอาล่ะเกริ่นมามากมาย มาดูสรรพคุณที่เค้าบรรยายกันดีกว่า
อันนี้ขอหยิบเนื้อหาจาก press kit ที่ได้มาจากแบรนด์ฯอีกทีนะคะ
–
“
อุดมไปด้วยบรรดาส่วนผสมเอกสิทธิ์จาก Dior Gardens
แกนนำส่วนผสมปฏิบัติการของ Dreamskin เปิดโอกาสให้ผิวสามารถ*
ลดปริมาณสารตั้งต้นอาการระคายเคือง
สาเหตุของรอยจ้ำแดง เลือนจุดด่างดำ
ดำเนินกระบวนการช่วยผลัดเปลี่ยนผิวอย่างราบรื่น
เพื่อบรรเทาสภาพหมองคล้ำ ฟื้นฟูประกายกระจ่าง สดใส
เพื่อเติมเต็มร่องลึกของริ้วรอย พร้อมลดขนาดรูขุมขน
ทวีความแข็งแรงให้แก่โครงสร้างหนังแท้เพื่อทวีความแน่นกระชับให้เนื้อผิว
*ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการ
“
–
oHLa’s comment
ตอน แรกบอกเลยว่างงกับเจ้าชิ้นนี้มากว่าควรจะใช้เป็นลำดับที่เท่าไหร่ใน การบำรุงผิว ในความเข้าใจของเก๋ตอนแรกนึกว่า dreamskin คือ ซีรั่มก็เลยใช้สเต็ปตามนี้ pre-serum + dreamskin + moisturizer หลังจากใช้แบบผิดวิธีมากว่า 2 สัปดาห์ สุดท้ายก็มีโอกาสได้สอบถามทีมงานของดิออร์ประเทศไทยให้ช่วยชี้ทางสว่างว่า เจ้า dreamskin นี้แนะนำให้ใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิว คือจะใช้เสริมจากมอยส์เจอร์ไรเซอร์เดิมที่มีอยู่แล้วก็ได้ หรือจะใช้แทน moisturizer ก็สามารถเช่นกัน เพราะว่ามีคุณสมบัติทั้งการบำรุงผิว และคุณสมบัติในเชิง cosmetics ที่ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและสดใส … ได้ฟังแล้วก็โล่งใจไปนิดหน่อยว่าอย่างน้อยก็ยังดีตรงที่ใช้ผิดไปไม่เยอะมาก พอให้อภัยกันได้ 555
–
เพราะฉะนั้นท่องให้ขึ้นใจนะคะสาวๆว่าลงตามสเต็ปนี้
pre-serum + serum + moisture + dreamskin
หรือ pre-serum + serum + dreamskin
–
–
จะ เห็นว่าสีของ Dior Dreamskin นั้นเป็นสีเนื้ออมชมพูนวลๆ และเมื่อเกลี่ยลงผิวแล้ว texture จะเคลือบผิวบางๆและช่วยพรางจุดบกพร่องของผิวทั้งรูขุมขนที่กว้าง สีผิวที่อาจจะดูไม่สม่ำเสมอกันให้ดูโอเคมากขึ้นด้วย
–
เก๋จะใช้ปริมาณ 1-1.5 ปั๊มต่อครั้ง สำหรับทาบางๆที่ผิวทั่วหน้าและลำคอ หลังจากนั้นรอสักประมาณ 1 นาทีก็สามารถแต่งหน้าต่อได้เลย
–
ความ รู้สึกหลังใช้ต่อเนื่องมาราวๆ 1 เดือน ทั้งที่ใช้ผิดวิธีมาเกือบครึ่งเดือนแต่ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีนะ สิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดที่สุดคือเรื่องรูขุมขนที่ดูเล็กลง ผิวดูเนียนและนุ่มขึ้น ซึ่งเก๋ลองดูผิว ณ ตอนที่ยังไม่ลงครีมบำรุงใดๆเป็นหลัก อีกเรื่องนึงที่พอจะรู้สึกได้คือความ ยืดหยุ่นของผิวที่ดีขึ้นถึงแม้ไม่ได้ ใช้ serum อื่นๆร่วมด้วย (อันนี้ต้องขอบคุณความโก๊ะของตัวเองที่ใช้ผิดสเต็ปเลยทำให้ได้รู้ถึง ประสิทธิภาพของ dreamskin)
–
สามารถ ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ส่วนใครที่มีผิวมันสุดๆอันนี้ต้องบอกก่อนนะคะว่า dreamskin ไม่มีคุณสมบัติเรื่องการควบคุมความมัน เพราะฉะนั้นอาจจะต้องวางแผนสกินแคร์ที่ใช้ตัวอื่นๆประกอบกันไป ส่วนในแง่ของการใช้งานพอรวบใช้ dreamskin แทนที่ moisturizer ในช่วงเช้าก็ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเพราะสามารถข้ามขั้นตอน makeup base ไปได้ ช่วงไหนผิวดีมากๆก็สามารถข้ามการใช้รองพื้นไปได้เลย
–
– หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ –
disclaimer: non-sponsor supported
ขวดสวยมากค่ะ
จริงแล้วดรีมสกินตัวเอาไว้ใช้ตินไหนบ้างคะ..เช้าอย่างเดียวหรือกลางคืนก็ได้คะ