REVEAL • REVIEW by oHLa :: Sulwhasoo Perfecting Cushion vs Laneige BB Cushion

Posted by oHLaLive on กุมภาพันธ์ 21, 2014 in beauty, REVEAL • REVIEW | 4 ความเห็น

บล็อกวันนี้ขอเขียนถึงผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า “bb cushion” กันสักหน่อย

จำได้ว่าเมื่อ 1-2 ปีที่แล้วแบรนด์แรกที่ออกผลิตภัณฑ์แนวๆนี้ที่เห็นคือ Laneige

ส่วนในปี 2014 นี้แบรนด์ในค่ายเดียวกันอย่าง Sulwhasoo ก็ออกผลิตภัณฑ์ชื่อคล้ายๆ

และหน้าตาแพคเกจรวมไปจนถึงวิธีการใช้งานแบบเดียวกันมาวางขายกับเค้าด้วยเหมือนกัน

Laneige เองก็ปรับสูตรแล้วออก BB Cushion โฉมใหม่มาด้วย

แน่นอนว่าพอได้มาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันก็เกิดความสงสัยในใจว่า แล้วมันต่างกันยังไง?

ปฏิบัติการทดลองใช้ก็เลยเกิดขึ้น…

–

เจ้าสองชิ้นคล้ายกันมากๆ ทั้งองค์ประกอบของแพคเกจ และรูปร่างหน้าตาโดยรวม

–

สิ่งที่แตกต่างเมื่อมองจากภายนอก คือ ความโค้งมนรวมไปจนถึงสีสันของแพคเกจและฟองน้ำ

–

ใน 1 กล่องจะมีตลับพร้อมกระจก และ refill 2 ชิ้น

–

วิธีการใช้

ให้ใช้ฟองน้ำแตะเนื้อผลิตภัณฑ์แล้วค่อยๆแต้มๆซับๆลงผิว

ไล่ไปทีละส่วน กดย้ำเบาๆถี่ๆจนเรียบเนียนกลืนไปกับผิว

–

–

 

oHLa’s comment

ทั้ง 2 ชิ้นนี้มีระดับการปกปิดที่คล้ายกันคือ ปกปิดได้แค่บางเบาจนถึงปานกลาง ค่อนข้างเหมาะกับคนที่มีพื้นฐานผิวค่อนข้างดี-ดีมาก สามารถปกปิดความไม่สม่ำเสมอของสีผิว หรือรอยแดงได้ประมาณนึง อาจจะต้องลงซ้ำ 2 ครั้งเพื่อเพิ่มการปกปิดที่มากขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกแตกต่างอย่างเห็นได้ค่อนข้างชัดคือ effect ของผิวที่ได้

–

Sulwhasoo Perfecting Cushion นั้นจะให้ effect ที่ดูเป็นเนื้อแป้งมากกว่า ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากทาลงผิวแล้ว ผิวหน้าจะดูสว่างแบบแป้งๆไปสักพัก พอเนื้อผลิตภัณฑ์เริ่มเซตตัวกับผิวก็จะดูกลมกลืนกัน และสำหรับคนที่ผิวธรรมดา-ผิวผสมแบบเก๋ก็จะโชคดีตรงที่เจ้านี่จะอยู่ติดทนบนผิวเราไปแทบทั้งวัน เรียกว่าเหงื่อออกระหว่างวันหรือผิวมันขึ้นระหว่างวัน แค่เอาทิชชูซับผิวเบาๆก็สวยแล้ว มีอยู่วันนึงลองทาเจ้าตัวนี้แล้วไปทริปออกแดดแรงๆที่ต่างจังหวัด ตกดึกผิวก็ยังสวยปิ๊งอยู่ไม่หลุดลอกหรือละลาย

–

ส่วน Laneige BB Cushion นั้นจะให้ effect ผิวที่ดูเงาวาวและฉ่ำ ซึ่งพอลองทาลงผิวหน้าเสร็จปุ๊บ บอกเลยว่ารักผิวตอนนั้นสุดๆ ในเรื่องของความติดทนผิวนั้นจากที่ลองพร้อมกันก็รู้สึกได้ว่าไม่มากเท่าของ Sulwhasoo แต่เรื่องความกลมกลืนเหมือนเป็นผิวเราจริงๆนั้นเริ่ดกว่า ส่วนข้อจำกัดของ Laneige ก็คือ ในระหว่างวันถ้าต้องเจอแดดสีผิวจะดรอปลง ซึ่งต้องซับหน้าซับเหงื่อออกแล้วเติมเพิ่มลงไปถึงจะผิวสวยอีกครั้ง ถ้าเราเดินสวยๆในห้างที่เปิดแอร์เย็นๆเก๋ว่าก็โอเค แต่ถ้าต้องใช้ชีวิตโลดโผนท้าแดดก็อาจจะต้องพกติดตัวเอาไว้เติมเพิ่มกันไป

–

อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะเกิดคำถามว่าแล้วควรจะเลือกใช้แบรนด์ไหน?

–

อันนี้ก็เป็นคำถามที่ตอบค่อนข้างยาก แต่ถ้าจำเป็นต้องเลือก 1 ชิ้น ก็คงต้องดูกิจกรรมในชีวิตประจำวันของเราเป็นหลักว่าเป็นแบบไหน และดูพื้นฐานผิวด้วยว่าเป็นยังไง ถ้าเป็นคนที่ผิวผสมค่อนข้างไปทางมัน และอยากได้ผิวแบบสว่างโดยไม่ฉ่ำวาวมากนักก็แนะนำให้เลือกใช้ Sulwhasoo จะเหมาะกว่า แต่ถ้าผิวธรรมดา-ผสมไปทางค่อนข้างแห้งแล้วอยากได้ผิวที่ฉ่ำวาวก็แนะนำให้เลือก Laneige จะดีกว่า และถ้าจะใช้ Laneige ขอแนะนำอีกอย่างนึงว่าลองดูสีที่สว่างกว่าผิวสัก 1/2-1 step เพราะระหว่างวันชีวิตจะง่ายไม่ต้องเติมผิวเพิ่ม แต่ถ้าชอบการเติมผิวระหว่างวันอยู่แล้วก็เลือกสีที่พอดีกับผิวเลยก็ได้ค่ะ

–

ก่อนจะจบการรีวิวนี้แอบกระซิบบอกข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์นี้อย่างนึงก็คือ แนะนำว่าพอใช้ไปซัก 2-3 ครั้งแล้วควรกดฟองน้ำกับตัวผลิตภัณฑ์เยิ้องๆมาทางขอบๆด้วย เพราะสิ่งที่เก๋เจอและรู้สึกว่าเป็นปัญหาต่อความงกของตัวเองก็คือ เคยชินกับการกดซับผลิตภัณฑ์จากกึ่งกลางมากเกินไป จนตอนหลังๆเนื้อผลิตภัณฑ์ตรงกลางมันเริ่มหายไป พอไปกดซับตรงขอบมันก็ออกมาได้ไม่มากเท่าที่ควร แอบเสียดายของก็ต้องใช้นิ้วจิ้มเนื้อบีบีออกมาและผิวแล้วใช้ฟองน้ำกดซับอีกที … ซึ่งวิธีนี้บอกได้เลยว่าให้ผลลัพธ์ผิวได้สวยไม่เท่าใช้ฟองน้ำซับที่ผลิตภัณฑ์โดยตรงแล้วนำขึ้นมาซับผิว แต่ในทางกลับกันเราก็จะได้ coverage ที่เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน

–

มาถึงตรงนี้เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนน่าจะได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้มากพอที่จะรู้แล้วว่าจะเดินไปจ่ายเงินให้กับแบรนด์ไหน ก็ขอให้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งนะคะ โอกาสหน้าหาเวลาว่างได้จะมาเขียนบล็อกให้ได้อ่านกันอีกค่ะ

–

– หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ –

NB.  แต่ละคนมีสภาพผิว วิถีชีวิต และพันธุกรรมที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นอาจจะใช้แล้วได้ผลลัพธืที่แตกต่างกันไปค่ะ

disclaimer: products are supported by Sulwhasoo (Thailand) and Laneige (Thailand)